คุณสมบัติ
ยาน้ำสมุนไพรบำรุงร่างกาย บรรเทาอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย
ส่วนประกอบสำคัญ
ตังกุยเถ้า ซวงเกียง ชัวเก้าลี้ ตังถั่งเฉ้า กัมเฉ้า ปักตังเซียม ปักคี้ แปะตุ๊ก เล็กตี่ เขากวาง เก๋ากี้ และสมุนไพรจีนกว่า 30 ชนิด
– สรรพคุณตังกุย (Angelica sinensis) ยังเป็นที่รู้จัก ตังกุยเถ้า ได้ถูกนำมาใช้เป็นพัน ๆ ปีในยาจีน, เกาหลี,
และญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม มันยังคงเป็นหนึ่งในพืชที่นิยมมากที่สุดในยาสมุนไพรจีนและการใช้งานเป็นหลักสำหรับสภาวะสุขภาพในสตรี
ตังกุย ได้รับการเรียกว่า\\\”โสมหญิง,\\\”ขึ้นอยู่กับการใช้งานสำหรับความผิดปกติของสตรี (เช่นอาการปวดประจำเดือนหรือกระดูกเชิงกรานที่เจ็บปวด)ของหญิงหลังจากการคลอดบุตรหรือเจ็บป่วยและยังเหมาะสำหรับการเสริมสร้างความเข้มแข็ง Xue (แปลว่าเป็น\\\”เลือด\\\”)
– สรรพคุณตังถั่งเช่า ถั่งเช่า (chong cao) หรือ ตังถั่งเช่า หรือ ตังถั่งแห่เช่า (dong chong xia cao)
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Ophiocordyceps sinensis จัดเป็นสมุนไพรจีน ซึ่งมีความหมายว่า “หญ้าหนอน”
หรือ “ฤดูหนาวเป็นหนอน ฤดูร้อนเป็นหญ้า”สรรพคุณช่วยบำรุงร่างกาย บำรุงกำลัง เพิ่มภูมิต้านทานโรค ทำให้ร่างกายสดชื่น
ช่วยแก้อาการอ่อนเพลีย สรรพคุณช่วยบำรุงหลอดเลือด ช่วยชะลอความแก่ชราและความเสื่อมของเซลล์ต่างๆในร่างกาย
– สรรพคุณ เก๋ากี้ คำว่า “โกจิเบอรี่” มีมาให้เห็นให้ได้ยิน กันมาเมื่อไม่นานมานี้ทั้งเครื่องดื่มสุขภาพ และอาหารเสริมมากมายก็นำส่วนผสม โกจิเบอรี่ก็คือ ยาจีนที่เรียกกันว่า ”เก๋ากี้” ที่เราๆรู้จักกันมานาน เก๋ากี้ (GOJI BERRY) หรือ Lycium Barbarum
เป็นผลไม้ชนิดหนึ่งในตระกูลเบอร์รีสีแดงมีลักษณะเป็นเมล็ดเล็กๆ ที่นิยมรับประทานในหมู่ชาวจีน ผลที่สุกแล้วจะมีสีแดงเหมือนเลือด
สรรพคุณโดยรวมของเม็ดเก๋ากี้คือ ทำให้ระบบการทำงานของร่างกายจะสมบูรณ์ขึ้น เพราะมีสารต่างซึ่งทำหน้าที่เหมือนโมเลกุลหลักในร่างกาย ที่เมื่อเกิดการทำงานร่วมกันแล้วจะทำหน้าที่เป็นตัวควบคุม และนำพาคำสั่งต่างๆ ครอบคลุมทุกระบบ
ใช้รักษาอาการทางด้านสายตา จากงานวิจัยพบว่าเมล็ดเก๋ากี้ยังมีสารจำพวก zeaxanthin และlutein
อยู่สูงมากซึ่งสารดังกล่าวเป็นสารจำพวก carotenoid ที่ช่วยป้องกัน ช่วยปรับสภาพแสง และกรองแสงสีน้ำเงินที่เข้าสู่ตาที่มีอันตรายต่อตาเก๋ากี้ มีวิตามิน B1, B2, C และสารพวกฟลาวานอยด์ในปริมาณที่สูง ช่วยต้านอนุมูลอิสระโดยไปกระตุ้น
การทำงานของสารต้านอนุมูลอิสระที่มีอยู่ในร่างกายให้ทำงานต้านอนุมูลอิสระได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งการกำจัดอนุมูลอิสรจะช่วยปกป้องผนังเซลล์ในร่างกายมีบีเทนที่ช่วยให้เกิดการสร้างสารโคลีน (choline) ซึ่งเป็นสารประกอบที่ช่วยเสริมความจำให้ดีขึ้น ช่วยให้ร่างกายปรับตัวเพื่อควบคุมความกังวลและความเครียดให้ลดลงอยู่ในสภาวะปกติ
***แหล่งอ้างอิง : สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), เว็บไซต์ vcharkarn.com, เว็บไซต์ tpma.or.th,
นพ.สมยศ กิตติมั่นคง หัวหน้ากลุ่มโรคเอดส์ สำนักโรคเอดส์ วัณโรคและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข***
วิธีใช้
รับประทานเริ่มจาก 5 cc. ไป 3-5 วัน (ก่อนอาหารเช้าและก่อนนอน) แล้วจึงเพิ่มเป็น 10 cc. อีก 3-5 วัน จากนั้นจึงเพิ่มเป็น 15 cc. ไปตลอด
1. รับประทานผสมกับน้ำอุ่นจะให้ผลดีมาก เพราะตัวยามีความเข้มข้นสูง รับประทานทีละน้อยจึงรับประทานได้นาน
2. รับประทานก่อนนอนหรือหลังตื่นนอน วันละ 2 ครั้ง ค่อยๆเพิ่มยาในการรับประทานทีละ 5 cc.
3. ไม่ควรรับประทานร่วมกับยาเคมีหรือยาแผนปัจจุบัน ให้รับประทานห่างกันอย่างน้อย 1 ชม.
สนใจข้อมูลเพิ่มเติม ฟรี เมื่อกรอกข้อมูลแล้วโปรดรับรหัสผ่านเข้าระบบฟรี ทางอีเมลของท่าน